บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

สิ่งที่ “จริง” ทั้งหลาย

ในบทความ “สมมุติสัจจะ ปรมัตถ์สัจจะเป็นของนำเข้า” ผมได้อธิบายไปแล้วว่า “สมมุติสัจจะ” กับ “ปรมัตถสัจจะ” ไม่ใช่ของเรา  พุทธวิชาการนำเข้ามาจากที่อื่น

เมื่อนำเข้ามาแล้ว พุทธวิชาการจำนวนมาก นำคำทั้งสองคำข้างต้นมาอธิบายพระไตรปิฎก โดยทำราวกับว่า คำทั้งสองคำนั้นเป็น ความหมายที่มีอยู่ดั้งเดิมพุทธเถรวาท

แต่ความเป็นจริงแล้ว คำทั้งสองคำข้างต้น ไม่มีอยู่ในพระไตรปิฎก และไม่จำเป็นจะต้องนำคำทั้งคู่เข้ามาอธิบาย เพราะ คำต่างๆ ในพระไตรปิฎก เช่น สังขตะ อสังขตะ สมมุติบัญญัติ ปรมัถตบัญญัติ สัจจะ อริยสัจ เป็นต้น ก็เพียงพอแล้วที่จะอธิบายว่า สัจจะในทางพุทธศาสนาเป็นเช่นไร

เมื่อในทางพุทธเถรวาทมีคำเพียงพอที่จะอธิบายเนื้อความของพระไตรปิฎกแล้ว ทำไมพุทธวิชาการจะต้องนำคำทั้งสองเข้ามาใช้ในการอธิบายพระไตรปิฎกด้วย?

เหตุผลหรือคำตอบก็มีง่ายๆ ก็เพื่อต้องการอธิบาย/ตีความให้เป็นไปตามความคิด/ความเชื่อของพุทธวิชาการ ที่หันไปสมาทานหรือเชื่อวิทยาศาสตร์ 

คำที่มีในพระไตรปิฎกไม่สามารถอธิบายให้คนเราเกิดมาเพียงชาติเดียวได้ ไม่สามารถอธิบายให้นิพพานเป็นอนัตตาหรือสูญหาย ไปได้ จึงเป็นความจำเป็นที่จะต้องนำศัพท์ใหม่เข้ามาช่วย

ในทางปรัชญาตะวันตกนั้น มีคำศัพท์ที่เกี่ยวกับสิ่งที่ว่า จริงนั้นมีอยู่ 5 คำคือ
1) ข้อเท็จจริง (fact)
2) ความจริง (truth)
3) ความเป็นจริง (reality)
4) ความจริงขั้นสุดท้าย (ultimate truth)
5) ความเป็นจริงสูงสุด (ultimate reality)

ในทางศาสนาพุทธ คำศัพท์ที่เกี่ยวกับสิ่งที่ว่า จริงนั้นมีคำเดียวคือ สัจจะ”  คำทั้ง 6 คำดังกล่าว มีความเป็นมา สถานภาพ และความหมายต่างกันโดยสิ้นเชิง

เมื่อเปรียบเทียบคำที่เกี่ยวกับ จริงในปรัชญาตะวันตกกับความหมายหรือข้อความที่ตรงกันกับข้อความของพุทธเถรวาทมี 4 คำ คือ ข้อเท็จจริง (fact) ความจริง (truth) ความเป็นจริง (reality) และ ความเป็นจริงสูงสุด (ultimate reality) [1]

ส่วนคำว่า ความจริงขั้นสุดท้าย (ultimate truth) นั้น ไม่มีข้อความใดของพุทธเถรวาทตรงกับความหมายนี้ 

พจนานุกรมศัพท์ปรัชญาอังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถานได้ให้ความหมายไว้ว่า  ปรมัตถสัจ, อันติมะสัจ หมายถึง ความจริงขั้นสุดท้าย เช่น พระเวทของฮินดู

ความจริงขั้นสุดท้าย (ultimate truth) นี้ มุ่งหมายไปที่ข้อความของภาษา ขอให้สังเกตความหมายของคำว่า truth ดังนั้น จึงหมายถึง ความศักดิ์สิทธิ์ ของคัมภีร์

ความหมายของคำนี้ ไม่มีในศาสนาพุทธเพราะ ในพระไตรปิฎกนั้น ไม่ว่าจะเป็นพระวินัย พระสูตร หรือพระอภิธรรม พุทธศาสนิกชนเห็นว่า มีความศักดิ์สิทธิ์เท่ากัน

ส่วนคัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู จำนวน 4 คัมภีร์นั้น ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูถือว่าคัมภีร์พระเวทมีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่าคัมภีร์อื่น

ทำไม สมมุติบัญญัติ-ปรมัตถบัญญัติ จึงดูกลมกลืนกับศานาพุทธเถรวาท

คำว่า “สมมุติสัจจะ” กับ “ปรมัตถสัจจะ”ดูกลมกลืนกับศานาพุทธเถรวาทเป็นอย่างดี ก็เพราะ เรามีคำดั้งเดิมอยู่คือ สมมุติบัญญัติ-ปรมัตถบัญญัติ

พุทธวิชาการได้นำคำว่า “ปรมัตถสัจจะ”มาใช้แทนคำว่า ปรมัตถบัญญัติ  ปรมัตถบัญญัติของพุทธเถรวาทมี 4 ประการ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน

ปรมัตถบัญญัติ 4 ประการนั้น  พุทธวิชาการอธิบายว่าเป็นปรมัตถสัจจะ

นอกจากนั้นแล้ว ความเชื่อดังเดิมของ “ปรมัตถสัจจะ”กับ “ปรมัตถสัจจะ”ก็เป็นของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ซึ่งก็น่าจะเข้ามาปะปนกับคำอธิบายของอรรถกถาจารย์ผู้เขียนอรรถกถาจำนวนมาก พุทธวิชาการที่ชอบอ่านอรรถกถาจึงคุ้นเคยกับคำคู่นี้พอสมควร

---------------------------
อ้างอิง
[1] ขอให้อ่านบทความเรื่อง ความจริงสัจจะกับ ความจริง-นิวตัน-ไอน์สไตน์-ธรรมกายในบล็อกของผู้เขียน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น